เมนู

นี้ ผ้าอุตราสงค์
นี้ ผ้าอันตรวาสก
นี้ ผ้ารัดอก
นี้ ผ้าอาบน้ำ
เธอจงไปยืนอยู่ ณ โอกาสโน้น.
ภิกษุณีผู้เขลา ไม่ฉลาด สอนซ้อม นางอุปสัมปทาเปกขะผู้ถูกสอน
ซ้อมไม่ดี ย่อมกระดาก เก้อเขิน ไม่อาจตอบได้ ภิกษุทั้งหลายกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้เขลา
ไม่ฉลาด ไม่พึงสอนซ้อม รูปใดสอนซ้อม ต้องอาบัติทุกกฏ.
ภิกษุณีมิได้รับสมมติสอนซ้อม ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีมิได้รับสมมติไม่พึง
สอนซ้อม รูปใดสอนซ้อม ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตให้ภิกษุณีผู้ได้รับสมมติ
แล้วสอนซ้อม.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติอย่างนี้ ตนเองพึงสมมติตน
หรือผู้อื่นพึงสมมติผู้อื่น.

วิธีสมมติตน


[576] ก็ตนเองพึงสมมติตน อย่างไร.
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา
ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจาสมมติตน


แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน นางชื่อนี้ เป็นอุปสัมปทา-
เปกขะของแม่เจ้าชื่อนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว ดิฉัน
พึงสอนซ้อมนางชื่อนี้.

อย่างนี้ชื่อว่าตนเองสมมติตน.

วิธีสมมติผู้อื่น


[577] ก็ผู้อื่นพึงสมมติผู้อื่น อย่างไร.
ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติกรรมวาจา
ว่าดังนี้:-

ญัตติกรรมวาจาสมมติผู้อื่น


แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน นางชื่อนี้เป็นอุปสัมปทา-
เปกขะของแม่เจ้าชื่อนี้ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว ภิกษุณี
ชื่อนี้ พึงสอนซ้อมนางชื่อนี้.

อย่างนี้ชื่อว่าผู้อื่นสมมติผู้อื่น.

คำสอนซ้อม


[578] ภิกษุณีผู้ได้รับสมมติแล้วนั้น พึงเข้าไปหานางอุปสัมปทา -
เปกขะแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า
นางชื่อนี้ เธอจงฟังนะ นี้เป็นกาลสัตย์ กาลจริง ของเธอ เมื่อถูกถาม
ในท่ามกลางสงฆ์ ถึงสิ่งอันเกิดแล้ว มีอยู่ พึงบอกว่ามี ไม่มี พึงบอกว่าไม่มี
เธออย่ากระดาก เธออย่าเก้อเขิน ภิกษุณีทั้งหลายจักถามเธอ อย่างนี้ :-